เปิดตัว Honda XL750 Transalp รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดจากทางฮอนด้า ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการเดินทางทั้งทางเรียบและทางฝุ่น ในราคาเริ่มต้น 389,000 บาท

Honda Transalp

Honda สานต่อตำนานแห่ง Transalp (ทรานซ์แอลป์) เปิดตัว Honda XL750 Transalp ส่งต่อลมหายใจของ Honda Transalp XL600V ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง

Honda Transalp เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ 1986 ในชื่อ XL600V กับเครื่องยนต์ V-Twin ขนาด 583cc โดยถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทาง และมีความทนทานสูง เพราะในปัจจุบันเรายังสามารถพบเห็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้โลดแล่นอยู่ในโซนยุโรป ตอกย้ำถึงความทนทานของมันได้เป็นอย่างดี

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ความต้องการรถมอเตอร์ไซค์แบบ “คันเดียวจบ” ไปได้ทุกที่ ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ เพราะรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถขับขี่ได้ทั้งในเมือง, เดินทางไกล เข้าทางออฟโรดได้ ตอบโจทย์นักเดินทางที่หลากหลายมากกว่า เนื่องด้วยช่วงล่างที่มีระยะยุบสูง มาพร้อมกับพละกำลังของตัวรถที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ทำให้รถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

โดนเจ้า Transalp ถูกอัพเดทครั้งใหญ่ๆ อยู่ 2 ครั้ง ได้แก่ในช่วงปี ค.ศ. 2000 อัพเกรดเครื่องยนต์เป็นขนาด 647cc และในเวอร์ชั่นปี 2008 อัพเกรดเครื่องยนต์เป็นระบบหัวฉีด พร้อมอัพขนาดเป็น 680cc กับน้ำหนักตัว 214 กก. โดยใช้ชื่อรุ่นว่า XL700V

มอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งปัจจุบัน

ตัดเข้าสู่ยุคปัจจุบัน รถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งของฮอนด้า ที่อยู่ในกลุ่มแอดเวนเจอร์นั่น มีเพียง 2 รุ่น ได้แก่ Honda CB500X ตั้งแต่รุ่นที่ได้รับการอัพเกรดล้อหน้าเป็นขนาด 19 นิ้ว และกระโดดขึ้นมาเป็น Honda CRF1100L Africa Twin อันเป็นรุ่นเรือธงไปเลย ซึ่งขาดช่องว่างตรงกลางที่ขนาด 750cc แม้ว่าจะมีรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งในพิกัดนี้อยู่หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Honda NC750X และ Honda X-ADV 750 แต่นั่นก็ไม่ใช่รถที่เป็นทัวร์ริ่งสายลุยซะทีเดียว โดยเฉพาะ NC750X ที่จุดประสงค์ของมันไม่ได้สร้างมาเพื่อลุยได้อยู่แล้ว ส่วน X-ADV 750 ก็เป็นรถสกู๊ตเตอร์

Honda XL750 Transalp

Honda XL750 Transalp เติมเต็มช่องว่างระหว่าง Honda CB500X และ Honda Africa Twin ได้อย่างลงตัว ด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงขนาด 755cc มอบพละกำลังสูงสุด 90.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 75 นิวตันเมตร กับน้ำหนักตัว 208 กิโลกรัม ตอบโจทย์คนที่อยากได้รถทัวร์ริ่งสายลุยที่แรงกว่า 500X แต่ก็อยากได้น้ำหนักที่เบากว่า Africa Twin ส่งผลให้ XL750 เป็นคำตอบทันที

ช่วงล่างด้านหน้า ใช้โช๊คอัพหัวกลับขนาดแกน 43 มม. ของ Showa รุ่น SFF-CA ระยะยุบ 200 มม.

ล้อ ใช้เป็นล้อซี่ลวดขนาด 21 นิ้ว รัดยางขนาด 90/90 R21 ส่วนระบบเบรกใช้เป็นดิสก์เบรกคู่ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 310 มม. มาพร้อมปั้มเบรก 2 พอต

หน้าจอเรือนไมล์ ใช้หน้าจอแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และระบบ Honda Smartphonce Voice Control System (HSVCs) ส่วนโหมดการขับขี่ มี 5 โหมด โดยมี 4 โหมด ที่รถได้ถูกตั้งค่าเอาไว้ ได้แก่ Standard, Sport, Rain, Gravel ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของพละกำลัง รวมไปถึงระบบความปลอดภัยที่ถูกออกแบบมาตามความเหมาะสมกับการใช้งาน ส่วนอีก 1 โหมด จะเป็นโหมด User ที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าได้เองโดยอิสระ ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ดังนี้

1. Engine Power(EP)
2. Engine Brake (EB)
3. ABS 2 ระดับ สามารถสั่งปิด ABS หลังได้ในโหมด Offroad
4. HSTC 5 ระดับ
5. Wheelie Control

ประกันแฮนด์ขวา มีเฉพาะปุ่ม Off/Run/Start ส่วนประกับแฮนด์ฝั่งซ้าย ใช้ควบคุมระบบไฟฟ้าของตัวรถทั้งหมด ทั้งหน้าจอเรือนไมล์, ระบบไฟส่องสว่าง, ไฟเลี้ยว, แตร และไฟฉุกเฉิน

เบาะนั่งชิ้นเดียว แบบแยกส่วนคนขับและผู้โดยสาร โดยเบาะของผู้ขับขี่มีความสูงจากพื้นอยู่ที่ 850 มม.

ไฟท้าย LED และไฟเลี้ยว LED ทั้งคัน

ช่วงล่างด้านหลัง ใช้สวิงอาร์ม พร้อมโช๊คอัพเดี่ยว ระยะยุบ 190 มม. ส่วนล้อ ใช้เป็นล้อซี่ลวด รัดยางขนาด 150/70 R18 ด้านระบบเบรกใช้ดิสก์เบรกเดี่ยว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 256 มม. พร้อมปั้มเบรก 1 พอต ส่วนตัวท่อไอเสียจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ CB500X

เครื่องยนต์ Honda XL750 Transalp 2023

เครื่องยนต์ของ Honda XL750 Transalp 2023 ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง OHC 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ องศาจุดระเบิดที่ 270° ระบายความร้อนด้วยน้ำ ปริมาตรกระบอกสูบรวม 755cc มอบพละกำลังสูงสุด 90.5 แรงม้า ที่ 9,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 75 นิวตันเมตร ที่ 7,250 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แมนนวล คลัทช์มือ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยโซ่ โดยขุมพลังของรถ ใช้พื้นฐานเดียวกับ Honda CB750 Hornet